top of page
Writer's pictureASTA Mammy & Kids

เสริมทักษะเตรียมความพร้อมให้ลูกน้อย พร้อมเผชิญชีวิตในโรงเรียน!

Updated: Jan 14


เตรียมความพร้อมให้ลูกน้อย พร้อมเผชิญชีวิตในโรงเรียน

เข้าสู่ช่วงปีใหม่แล้ว คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกน้อยกำลังจะเข้าโรงเรียนในปีหน้า เริ่มเตรียมตัวกันรึยังคะ ? ใครที่กำลังมีแผนจะให้ลูกน้อยไปโรงเรียนในช่วงกลางปีหน้า ต้องรีบเตรียมความพร้อมให้ลูกน้อยตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ เพราะโรงเรียนเป็นสถานที่ที่แปลกใหม่สำหรับเด็ก เป็นครั้งแรกที่เขาจะต้องเข้าสู่สังคมใหม่ พบเจอและอยู่ร่วมกับคนใหม่ๆ ที่สำคัญต้องแยกจากพ่อแม่ ความกลัว ความกังวลใจ และความไม่ไว้วางใจในโลกใหม่ของเด็ก ๆ ย่อมเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ แต่หากถ้าเรามีการเตรียมความพร้อมให้เขาดีๆ ก็จะช่วยคลายความเครียด ความวิตกกังวลของทั้งเด็กและคุณพ่อคุณแม่อย่างเราได้ดีเลยล่ะค่ะ ที่สำคัญยังช่วยให้ลูกของเราชื่นชอบและรักในการไปโรงเรียนอีกด้วยนะคะ


ซึ่งวันนี้ทาง AsmartBrain ก็จะมาแนะนำวิธีการเตรียมความพร้อมให้ลูกน้อยก่อนไปโรงเรียนกันค่ะ เราจะแบ่งเป็นหมวดหมู่ทั้งหมด 4 ด้านนะคะ ได้แก่


ทักษะด้านร่างกาย 

ฝึกให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ 

อันดับแรกเลยค่ะ การไปโรงเรียนน่นอนว่าจะมีเด็กๆ มาโรงเรียนครั้งแรกมากมาย ซึ่งก็จะทำให้สถานการณ์อาจจะวุ่นวาย คุณครูไม่เพียงพอหรือดูแลไม่ทั่วถึงเท่ากับการดูแลจากคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านแน่นอนค่ะ ดังนั้นหากเราสอนลูกให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองเป็นกิจวัตรประจำวันตั้งแต่อยู่ที่บ้าน เช่น การเข้าห้องน้ำเอง หรือสามารถบอกความต้องการได้ การฝึกทานข้าวเอง ถอดถุงเท้าเก็บรองเท้าต่างๆ ก็ช่วยให้ลูกๆ ของเราชินกับการทำที่บ้านและสามารถใช้ชีวิตในโรงเรียนได้ง่ายและสนุกมากขึ้น และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ก็จะได้หมดความกังวลใจ เพราะเรามั่นใจว่าลูกสามารถทำช่วยเหลือตัวเองได้แน่นอนค่ะ


ฝึกให้ลูกหยิบจับ เดินวิ่ง เล่นของเล่น ขีดเขียนได้ 

ถึงแม้ว่าจะยังไม่เข้าโรงเรียน คุณพ่อคุณแม่ควรที่จะหากิจกรรมมาเล่นกับลูกน้อยเพื่อเป็นการพัฒนาทักษะทางด้านร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ตัวต่อ ให้เขาได้รู้จักการหยิบจับ หรือนำกระดาษดินสอมาให้เขาฝึกขีดเขียนวาดรูปต่างๆ ถือเป็นการพัฒนากล้ามเนื้อให้ลูกได้ดีเลยค่ะ และ AsmartBrain ก็มีของเล่นจำพวกตัวต่อต่างๆ ที่สามารถฝึกให้ลูกน้อยได้เช่นกันค่ะ และที่สำคัญอย่าลืมให้ลูกได้ทานอาหารที่มีประโยชน์  ออกกำลังกายและนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เพื่อให้ลูกมีร่างกายที่แข็งแรงอยู่เสมอ เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องไปโรงเรียน เขาจะได้มีความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ ค่ะ


ทักษะด้านการสื่อสาร

ฝึกให้ลูกน้อยมีมารยาทอ่อนน้อม

การที่เด็กตัวเล็กๆ รู้จักมารยาทหรือการอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ว่าจะเป็นการทักทาย การสวัสดี การรู้จักกล่าวขอโทษ หรือกล่าวขอบคุณ จะกลายเป็นเด็กที่ดูน่ารักขึ้นเยอะมากๆ ไปไหนก็จะมีคนเอ็นดูค่ะ และสิ่งเหล่านี้จะติดตัวเป็นนิสัยของเด็กอีกด้วยนะคะ เพราะฉะนั้นการสอนเขาตั้งแต่ก่อนไปโรงเรียน ให้เขารู้จักและฝึกทำสิ่งเหล่านี้จนชิน ก็จะทำให้มีแต่ผู้คนเอ็นดูมากยิ่งขึ้นค่า


ฝึกให้ลูกสามารถสื่อสารบอกความต้องการ

เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากๆค่ะ คือการสอนให้ลูกสามารถบอกความต้องการของตัวเองได้ เพราะเวลาที่ลูกของเราอยู่ที่โรงเรียน คุณครูอาจจะไม่ได้รู้ใจลูกของเราเสียทุกอย่างเหมือนคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นเราจึงต้องฝึกลูกให้สามารถบอกได้ว่า ชื่ออะไร ต้องการอะไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร อยากเข้าห้องน้ำ มีอาการปวดหัว ปวดท้อง สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานที่เด็กๆ ควรจะสามารถสื่อสารได้ และยังรวมถึงหากมีปัญหากับเพื่อน เพื่อนแย่งของเล่น หรือเพื่อนแกล้งแรงๆ เด็กก็จะได้บอกคุณครูได้ยังไงละคะ

ทักษะด้านสังคม-อารมณ์

ฝึกให้ลูกเข้าสังคมเป็น

แน่นอนค่ะว่าเมื่อลูกจะต้องไปอยู่ในโรงเรียน จะต้องพบเจอคนแปลกใหม่มากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็นคุณครู เพื่อนๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นการฝึกให้ลูกได้อยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการกล้าพูดคุยกับคนอื่น ไม่กลัวที่จะตอบคำถาม รวมถึงการฝึกพฤติกรรมที่ดีต่อส่วนรวม อย่างเช่น การแบ่งปันกับคนอื่นๆ การรู้จักต่อคิวรอ  รวมถึงเรื่องระเบียบวินัยต่างๆ เป็นต้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกให้เขารู้จักการแบ่งปันของเล่นได้ โดยเริ่มจากแบ่งปันของเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ หรือการพาลูกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไปเล่นที่สวนสาธารณะ เข้าทำกิจกรรม workshop สำหรับเด็ก เพียงเท่านี้จะช่วยให้เขาพร้อมที่เผชิญโลกกว้างได้อย่างง่ายขึ้น และสามารถเข้ากับคนอื่นได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ


ฝึกให้ลูกรู้จักการอดทนรอคอย ไม่เอาแต่ใจ 

การไปโรงเรียนสำหรับเด็กแน่นอนล่ะค่ะว่าต้องเจอเรื่องที่ไม่พอใจ เพราะเราอยู่กันในสถานที่ใหม่ที่มีผู้คนมากมาย ต่างครอบครัวกัน ทำให้อาจจะเกิดปัญหาได้อยู่แล้ว เช่น อาจจะเป็นการแย่งของเล่นกัน สิ่งเหล่านี้คุณพ่อคุณแม่อย่างเราควรปลูกฝังลูกน้อยตั้งแต่ยังเล็กในเรื่องของการรู้จักอดทน สามารถอดทนรอคอยสิ่งต่างๆ ได้ เพื่อให้เขาเป็นเด็กที่ไม่เอาแต่ใจจนเกินไปหรือเป็นเด็กที่อยากได้สิ่งใด ต้องได้ในสิ่งนั้นทันที ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ลูกอยากได้ของเล่นชิ้นนี้ คุณพ่อคุณแม่สามารถแก้ไขได้โดยการที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะชวนลูกคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของลูก และช่วยให้ลูกสามารถรอนานขึ้นได้ค่ะ เพราะการไปโรงเรียนไม่มีใครที่สามารถตามใจลูกน้อยของเราได้ตลอดเวลานะคะ


ทักษะด้านสติปัญญา

ฝึกให้ลูกสามารถจดจำได้

เพราะเด็กวัยที่ต้องไปโรงเรียนจะมีอายุประมาณ 2 ขวบครึ่งถึง 3 ขวบ เด็กควรจะสามารถรู้จักและจดจำบางสิ่งได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพวกสี ตัวเลข ตัวอักษรง่าย ๆ ถือเป็นพัฒนาการที่เหมาะสมค่ะ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อย่างเราควรชวนลูกมาฝึกอ่าน ทายสี สอนจำป้ายต่างๆ ตั้งแต่ที่ยังไม่ไปโรงเรียนค่ะ  อย่าง AsmartBrain  ก็มีทั้งตัวอักษร กระดานตัวเลขที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำมาสอนให้กับลูกน้อยได้ เพื่อให้การไปโรงเรียนของเขาสนุกมากขึ้น เพราะเขารู้และสามารถจำสิ่งที่เราเคยสอนได้


เด็กสองคนจูงมือเข้าโรงเรียน

และสิ่งที่สำคัญนะคะ คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างทัศนคติที่ดีต่อโรงเรียนให้กับลูกน้อย โดยคุณพ่อคุณแม่อาจเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับการไปโรงเรียนให้ลูกฟังว่าทำไมเด็ก ๆ ถึงต้องไปโรงเรียน ไปโรงเรียนจะทำให้เราเจอเพื่อนเยอะๆ มีกิจกรรมสนุกมากมายให้ทำ ทำให้เราเก่งขึ้น จะทำให้ลูกมีทัศนคติที่ดีต่อโรงเรียนและมีความคุ้นชินมากขึ้นค่ะ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมก่อนไปโรงเรียนถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่นะคะ และหากต้องการปรึกษาเกี่ยวกับของเล่นสำหรับพัฒนาการในด้านต่างๆ สามารถทักเข้ามาปรึกษากับ AsmartBrain ได้เลยค่ะ เรายินดีเป็นเพื่อนเลี้ยงลูกให้ทุกคนค่ะ


มากกว่า 'ของเล่น' คือเห็นคุณได้เล่นกับลูก

วันนี้คุณเล่นกับลูกแล้วหรือยัง?

-AsmartBrain  -



20 views0 comments

Comentários


bottom of page